โปรตุเกส เป็นชาติที่อุดมไปด้วยแข้งซูเปอร์สตาร์จากลีกชั้นนำของโลกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ยกขบวนกันมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน โรนัลโด กัปตันทีมผู้ครองตำแหน่งดาวซัลโวทีมชาติสูงสุดตลอดกาล, บรูโน แฟร์นันด์ส จอมทัพตัวเก่งจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ราฟาเอล เลเอา ดาวรุ่งเนื้อหอมจาก เอซี มิลาน หรือแม้กระทั่ง ยอดแข้งสารพัดประโยชน์จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง แบร์นาโด ซิลวา ซึ่งทุกรายนามที่กล่าวมาข้างต้น คือ เหล่าผู้เล่นที่จะเข้ามาช่วยยกระดับให้ ทัพฝอยทอง สามารถต่อกรกับทีมที่เป็นเต้ยในทัวร์นาเมนต์นี้ได้อย่างสุดมัน

ผลงานของ ทีมชาติโปรตุเกส ภายใต้การนำทัพของ เฟร์นันโด ซานโตส ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครั้งล่าสุด ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ หลังพวกเขาจบอันดับที่ 2 ของตารางคะแนนกลุ่ม เอ ด้วยการลงเล่น 8 นัด เอาชนะไปได้ถึง 5 เกม เสมอ 2 และแพ้อีก 1 เกม เพียงพอต่อการผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟโซนยุโรป สำหรับการคว้าตั๋วลุยศึกเวิลด์ คัพ 2022 ในรอบเพลย์ออฟ ของ ทัพฝอยทอง เป็นไปอย่างราบรื่น หลังพวกเขากำราบ ทีมชาติตุรเคีย และ ทีมชาติมาซิโดเนียเหนือ ลงได้อย่างไม่ยากเย็น และถูกบรรจุเข้าสู่รายชื่อ 32 ชาติสุดท้าย ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันเทศกาลฟุตบอลอันน่าเต้นเร้าใจที่สุด ณ ประเทศกาตาร์

อย่างไรก็ตาม ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะอุบัติขึ้น ทีมชาติโปรตุเกส จะทำการลงแข่งขันอยู่ในกลุ่ม เฮช ร่วมกับ ทีมชาติอุรุกวัย, ทีมชาติกานา และ ทีมชาติเกาหลีใต้ หากพิจารณาจากชื่อชั้น กอปรกับขุมกำลังที่มี ต้องถือว่า ทัพฝอยทอง ดูจะไม่เป็นสองรองใคร และมีสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ โดยมีข้อแม้ว่าพวกเขาห้ามติดประมาทกันไปเอง เนื่องจากทุกทีมที่มีคิวลงฟาดแข้งกับพวกเขา ล้วนมีประสบการณ์จากทัวร์นาเมนต์นี้มาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นงานที่ไม่ยาก และไม่ง่ายเกินไป สำหรับ ทัพฝอยทอง ในการการันตีตั๋วเข้าสู่รอบต่อไป

ดาวเด่น : บรูโน แฟร์นันด์ส

จอมทัพชาวโปรตุกีส มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการเข้ามายกระดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้มีผลงานไปในทิศทางที่ดีขึ้นนับตั้งแต่ตบเท้าเข้ามายังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยการผ่านบอลแบบคิลเลอร์พาสสุดเหนือชั้น และการจบสกอร์จากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษอันเฉียบคม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ บรูโน เข้ามาช่วยเติมเต็มในช่องว่างที่ขาดหายไปของ ทัพปิศาจแดง ทำให้สาวกเรดอาร์มี ยกให้ดาวเตะรายนี้ เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทาง ยูไนเต็ด ตามหามาเป็นระยะเวลานานแสนนาน

นอกจากนี้ กองกลางวัย 28 ปี ลงรับใช้ ทัพฝอยทอง ไปแล้วทั้งสิ้น 49 เกม ซัดไปแล้ว 11 ประตู และถึงแม้ว่าผลงานของเจ้าตัวในนามทีมชาติจะสวนทางกับบนเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ค้าแข้งอยู่ในลีกระดับท็อปของโลกมาโดยตลอด บวกกับการลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างคงเส้นคงวา และสิ่งเหล่านี้เองอาจเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีส่วนช่วยให้ ทีมชาติโปรตุเกส เข้ารอบลึกๆ ในปีนี้ก็เป็นได้

กัปตันทีม : คริสเตียโน โรนัลโด

ซูเปอร์สตาร์วัย 37 ปี เป็นเสาหลักให้กับทีมชาติโปรตุเกส นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ และสานต่อตำนานเบอร์ 7 ต่อจาก หลุยส์ ฟิโก้ โดยเราไม่ต้องสาธยายถึงความเป็นแข้งเวิลด์คลาสของเขาให้มากความ เนื่องจากการที่เจ้าตัวครองตำแหน่งดาวซัลโวทีมชาติสูงสุดตลอดกาล 117 ประตู ที่เพิ่งแซงหน้า อาลี ดาอี ที่ทำไว้ก่อนหน้า 109 ประตู คือเครื่องพิสูจน์ชั้นดี ว่า ซีอาร์เซเวน คือ ตำนานตั้งแต่ที่ยังไม่แขวนสตั๊ดเสียด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น ทัศนคติของ คริสเตียโน โรนัลโด ที่มีต่อกีฬาฟุตบอลถือเป็นเรื่องที่น้อยคนนักจะแสดงให้เห็นออกมาถึงสภาวะความเป็นผู้นำ ปลุกใจเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอยามที่ทีมเป็นฝ่ายตามหลัง พร้อมกับบุคลิกภาพด้านความเป็นผู้ชนะที่สูงเกินใคร จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาได้รับมอบหมายหน้าที่อันใหญ่หลวงนี้มาตั้งแต่ปี 2008 จากกุนซือทุกราย นอกจากนี้ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นแข้งซีเนียร์ กอปรกับการเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่บนจุดสูงสุดมาเป็นเวลานาน ทำให้ หัวหอกวัยเก๋ารายนี้ ได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมทีมแทบทุกราย ที่สำคัญก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น เจ้าตัวได้ออกมาประกาศว่า นี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขา ดังนั้น เขาอาจมีความทุ่มเทให้กับศึกนี้แบบเกินร้อย และเค้นฟอร์มเก่งของตนออกมาอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอน

ดาวรุ่ง : ราฟาเอล เลเอา

ดาวโรจน์เนื้อหอมจาก เอซี มิลาน ตกเป็นข่าวย้ายสังกัดมาโดยตลอดช่วงซัมเมอร์ โดยเจ้าตัวถูกบิ๊กทีมจากทั่วยุโรปจ้องตาเป็นมัน ด้วยผลงานการลงเล่นในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ให้กับ ทัพปิศาจแดงดำ 109 นัด ถลุงไปทั้งสิ้น 29 ประตู โดยเจ้าตัวมีสไตล์การเล่นอันแพรวพราวด้วยการใช้ความเร็วเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ การเล่นเพื่อทีม การแอสซิสต์สุดอันตราย และการจบสกอร์ได้อย่างคมกริบ

เหนือสิ่งอื่นใด ดาวเตะวัย 23 ปี ยังถือครองสถิติเป็นผู้ทำประตูได้เร็วที่สุดในศึกกัลโช เซเรีย อา อยู่ที่ 6.2 วินาที ในเกมที่เขาพาต้นสังกัดบุกไปเฉือนเอาชนะ ซัสซูโอโล ได้ถึงถิ่น 2-1 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2020 ซึ่งสถิติดังกล่าวเร็วยิ่งกว่าประตูที่เร็วที่สุดตลอดกาลในศึกฟุตบอลโลกที่ ฮาคาน ซูเคอร์ เคยทำไว้ที่ 11 วินาที เสียด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าหาก เลเอา สามารถเฉิดฉายในทัวร์นาเมนต์ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นบนผืนแผ่นดินตะวันออกกลางได้ ไม่แน่ว่าตลาดช่วงหน้าหนาวเดือนมกราคม เราอาจจะได้เห็นดีลการย้ายทีมของแข้งมากความสามารถรายนี้เกิดขึ้น

ผู้จัดการทีม : เฟร์นันโด ซานโตส

นายใหญ่วัย 68 ปี เป็นกุนซือมากประสบการณ์ที่เคยผ่านงานคุมทีมทั้งระดับสโมสร และระดับชาติ มาแล้วอย่างโชกโชน เรียกได้ว่าบิ๊กทีมในลีกโปรตุเกส ซานโตส เก็บเรียบ ไล่มาตั้งแต่ ปอร์โต้, สปอร์ติง ลิสบอน หรือแม้กระทั่ง เบนฟิก้า ซึ่งงานแรกของ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีส กับ ทัพฝอยทอง คือการพาทีมบ้านเกิดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2014 ทว่าผลงานที่ออกมากลับยังไม่เป็นที่น่าพอใจ หลัง ทีมชาติโปรตุเกส ร่วงตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ไม่สามารถทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกฟุตบอลยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส มาถึง ซานโตส ได้มีโอกาสแก้มืออีกครั้งจากความล้มเหลวในศึกเวิลด์ คัพ 2014 ซึ่ง ทีมชาติโปรตุเกสภายใต้การนำทัพของเขา ทำผลงานได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์ ด้วยการพลิกโฉมจากทีมเมื่อปี 2014 จากหน้ามือเป็นหลังมือ ด้วยสไตล์การเล่นที่เปลี่ยนไป โดยพวกเขาเสียประตูยากขึ้น เล่นกันได้อย่างรัดกุม ผู้เล่นมีระเบียบวินัยดี และโฟกัสอยู่กับเกมเสมอหากยังไม่สิ้นเสียงนกหวีดยาว นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ ทัพฝอยทอง มีดีพอที่จะคว้าชัยได้เหนือทุกทีมที่ขวางหน้า พร้อมตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อไปพบกับ ทีมชาติฝรั่งเศส

ยิ่งไปกว่านั้น ผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่ออกมาได้หักปากกาเซียนทุกสำนัก เนื่องจาก ทีมชาติโปรตุเกสในมือของ เฟร์นันโด ซานโตส เฉือนเอาชนะทีมเจ้าภาพ ช่วงทดเวลาพิเศษ 1-0 คว้าแชมป์ยูโร 2016 ไปแบบเหนือความคาดหมาย ทำเอาแฟนบอลทัพตราไก่ ที่เข้ามาชมเกมคอตกไปตามๆ กัน อย่างไรก็ตามในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถทะลุถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แต่นั่นก็คือปลายทางของพวกเขาเช่นเดียวกัน หลังความพ่ายแพ้ต่อ ทีมชาติอุรุกวัย 2-1 ดังนั้น เหล่าคอบอลต้องมาร่วมลุ้นกันว่า ศึกเวิลด์ คัพ 2020 ที่กำลังจะเปิดม่านขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ทัพฝอยทองในมือของ ซานโตส จอดป้ายอยู่ที่รอบใด         

11 ตัวจริง และแผนการเล่นที่คาดว่าจะใช้เป็นระบบ 4-3-3

อังเดร ซิลวา ราฟาเอล เลเอา คริสเตียโน โรนัลโด

บรูโน แฟร์นันด์ส รูเบน เนเวส แบร์นาโด ซิลวา

นูโน เมนเดส ดานิโล เปเรรา รูเบน ดิอาส เชา คันเซโล

ดิโอโก้ คอสต้า

อัตราต่อรองสำหรับการเลือก ทีมชาติโปรตุเกส เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 อยู่ที่ 14/1

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ