สมาพันธ์ฟุตบอลโปรตุกีส (FPF) ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการต่อ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และผู้จัดการแข่งขันยูโรระดับท้องถิ่น เพื่อขอให้ช่วยยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักเตะ

ย้อนกลับไปในเกมที่ ทีมชาติโปรตุเกส เอาชนะ ทีมชาติตุรกีไปได้ 3-0 ทัพฝอยทอง โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามระหว่างการแข่งขัน เกมกลับต้องสะดุดเป็นระยะ เนื่องจากมีแฟนบอลหลายรายบุกลงสนามเพื่อหวังถ่ายรูปกับนักเตะ ซึ่งแฟนบอลส่วนใหญ่ที่วิ่งลงมาโฟกัสไปที่การขอถ่ายรูปกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ สตาร์กัปตันทีมโปรตุเกส ยิ่งไปกว่านั้นหลังจบเกมก็ยังมีแฟนอีกจำนวนหนึ่งทำพฤติกรรมเดียวกัน ซึ่งมีเยาวชนรวมอยู่ด้วย รวมแล้วมีแฟนบอลทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมมากถึง 6 คน เลยทีเดียว

จากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้ โรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือทีมชาติโปรตุเกส เคยออกมาแสดงความหงุดหงิดต่อพฤติกรรมของแฟนบอลกลุ่มนี้ที่ก่อความเดือดร้อนจนเกมหยุดชะงัก และทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องคอยวิ่งไล่ตามผู้บุกรุกในสนามว่า

“มันเป็นข้อกังวล ความตั้งใจของแฟนๆ เป็นเรื่องที่ดี เราทุกคนรักแฟนบอลที่จดจำดาราดังและไอคอนต่างๆ ได้ แต่คุณ (ต้อง) เข้าใจว่ามีช่วงเวลาที่ยากลำบากหากความตั้งใจของพวกเขาผิด เราต้องระวัง มันไม่ควรเกิดขึ้น มีความปลอดภัยมากมาย

“เราควรส่งข้อความถึงแฟนๆ ด้วยเพราะมันไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง มันอาจจะแย่ลงไปอีกในอนาคต มันไม่ดีเลยที่นักเตะจะถูกเปิดเผยในสนาม”

“เราทุกคนรักแฟนบอลที่รู้จักสตาร์ดังและบุคคลสำคัญในชีวิตของพวกเขา… แต่มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก หากความตั้งใจเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผิด ผู้เล่นอาจมีอันตราย และเราต้องระมัดระวังกับสิ่งนี้”

“ผมไม่คิดว่าเรื่องนั้นควรจะเกิดขึ้นในสนามฟุตบอล มีการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันมากมาย และผมไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น และบางทีเราควรส่งข้อความถึงแฟนๆ ว่ามันไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง คุณจะไม่ได้อะไรเลยและมาตรการอาจจะแย่ลงในอนาคต”

ทางด้าน ยูฟ่า ก็ออกมาเคลื่อนไหว โดยยืนยันว่า จะเรื่องของความปลอดภัยและความมั่นคงถือเป็นความสำคัญสูงสุด และจะมีการใช้มาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมในสนามกีฬาเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของการแข่งขันเพิ่มเติม และเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว

ในตอนแรก เด็กหนุ่มผู้บุกรุกในสนามเดินข้ามไปหาโรนัลโด้ซึ่งโพสท่าถ่ายรูปเซลฟี่อย่างมีความสุข และยิ้มกว้างขณะที่เด็กชายพยายามจะวิ่งหนีจากผู้ดูแลที่พาเขาออกไปในที่สุด

โดยทาง ยูฟ่า ยืนยันเพิ่มเติมอีกว่า การบุกรุกใดๆ ก็ตามในสนามจะส่งผลให้บุคคลคนนั้นถูกไล่ออกจากสนาม และ ถูกแบนจากการแข่งขันทุกรายการ และการยื่นฟ้องร้องทางอาญาอย่างเป็นทางการในข้อหาบุกรุก

แม้จะเกิดความสับสนวุ่นวาย แต่ทางด้าน แบร์นาโด้ ซิลวา แนวรุกทีมชาติโปรตุเกส ผู้ทำประตูแรกหลังจากแอสซิสต์จากโรนัลโด้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวของ CNN สื่อดังระดับโลกว่า เขามองว่า การบุกเข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญแทนที่จะเป็นอันตราย

“มันน่ารำคาญนิดหน่อยในแง่ของการต้องหยุดเกมเสมอเพราะมีแฟนบอลเข้ามาในสนาม แต่นั่นเป็นราคาที่คุณจ่ายสำหรับการได้รับการยอมรับในโลกของฟุตบอล และมีนักเตะแบบเขาอยู่กับเรา” สตาร์แมนซ ซิตี้ กล่าวกับสื่อ

แม้ว่าโรนัลโด้มีส่วนช่วยในการทำแอสซิสต์ ซึ่งเป็นครั้งที่ 8 ของเขาในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งเท่ากับสถิติ แต่เหตุการณ์แฟนบอลบุกรุกในสนาม อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องกังวลสำหรับเกมถัดไป

สำหรับ โปรตุเกส ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปโดยยังมีเกมเหลืออีกเกมหนึ่งเกมในนัดสุดท้ายที่จะพบกับ จอร์เจีย วันที่ 27 มิถุนายน 2024 เวลา 02.00 น.

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ