สถิติชี้ชัดว่าทีมปีศาจแดงของกุนซือชาวดัตช์มีโอกาสที่จะได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ หลังจากที่พวกเขาเอาชนะทัพขุนค้อนได้ในศึกเอฟเอคัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะมีโอกาสได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ก็เป็นได้ หลังจากที่พวกเขาเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 ในศึก เอฟเอคัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ทีมปีศาจแดง กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มร้อนแรงสุด ๆ ในซีซั่นนี้แม้ว่าจะออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการแพ้ทั้งสองนัดก็ตาม โดยตอนนี้ พวกเขาเพิ่งจะเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 ในศึก คาราบาวคัพ รอบชิงชนะเลิศเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกทีมของกุนซือชาวดัตช์คว้าแชมป์ได้เป็นแชมป์แรกตั้งแต่ปี 2017

ล่าสุด เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในศึก เอฟเอคัพ รอบ 5 ซึ่งก็เป็นทางผู้มาเยือนที่ได้ประตูออกนำไปก่อน ก่อนที่ เรด เดวิล จะมีลูกฮึดยิงรัว 3 ประตูรวดเอาชนะไปได้ 3-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปในรายการนี้ได้สำเร็จ

และหลังจากที่พวกเขาเอาชนะในเกมนี้ได้สำเร็จแล้ว นั่นเท่ากับว่าตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะในซีซั่นนี้ได้ครบ 30 เกมแล้ว จากการลงเล่น 41 นัดทุกรายการ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการเก็บชัยชนะได้ครบ 30 เกมได้ไวที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในประวัติศาสต์สโมสร รองลงมาจากฤดูกาล 2006-2007 และฤดูกาล 2012-2013 ที่ทำได้เร็วกว่าด้วยสถิติลงเล่นไป 40 นัด และใน 2 ฤดูกาลดังกล่าวนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกทั้ง 2 ฤดูกาล

ซึ่งนี่ ก็ถือว่าเป็นสถิติที่ปลุกใจแฟนบอลของปีศาจแดงได้ไม่น้อยเลย เนื่องจากตอนนี้พวกเขารู้ดีว่าด้วยศักยภาพและความมั่นใจของโค้ชและตัวนักเตะนั้นสามารถที่จะก้าวไปถึงจุดนั้นได้จริง ๆ

โดยในตอนนี้ หลังจากที่คว้าแชมป์ คาราบาวคัพ ได้เรียบร้อยแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้าลีก และ เอฟเอคัพ ด้วย ซึ่งถ้าหากพวกเขาทำได้ ก็จะกลายเป็นทีมแรกในเกาะอังกฤษที่คว้าแชมป์ได้ทุกรายการในซีซั่นเดียว

ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก มีอยู่ 49 แต้ม ห่างจากทีมจ่าฝูงอย่าง อาร์เซนอล 11 แต้มและห่างจากรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6 แต้ม และมีเกมที่ตกค้างอยู่ในมืออีก 1 เกม

ข่าว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อื่น ๆ