วันที่ 29 มีนาคม 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬา จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน พร้อมด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

โดยงบประมาณมีจำนวนมากถึง 1,640 ล้านใน 4 ปี ซึ่งงบประมาณนี้ ถือเป็นงบประมาณที่จะช่วยเพิ่มขึ้น และครอบคลุมจำนวนสมาคมกีฬาในประเทศไทยในการสนับสนุนสมาคมกีฬาไม่ให้ขาดงบประมาณเหมือนที่ผ่านมา

ด้าน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมในฐานะคนรักกีฬาก็ชื่นชมอยู่แล้ว วันนี้ผมเป็นนายกฯ ผมจึงให้ความสําคัญกับเรื่องนี้มาก แล้วก็เข้าใจหัวใจของคนที่รักกีฬาด้วย” 

“ผมยืนยันครับว่า ตราบใดที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรีผมจะไม่ให้วงการกีฬาต้องขาดงบประมาณครับ ผมถือว่าเรื่องนี้สําคัญมาก ผมจะดูแลวงการกีฬาอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้เกิดความสมดุลกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ เราจะใช้งบประมาณ อย่างถูกต้อง และปราศจากการทุจริตประพฤติมิชอบ”

“และไม่ใช่แค่เรื่องการเงินอัดฉีด หรือการจัดงบประมาณอย่างเดียว เรื่องนโยบายก็สําคัญครับ การเป็นนักกีฬามีระยะเวลา อายุที่สามารถเล่นได้มีจำนวนจำกัด สิ่งที่นักกีฬาทุกคนมีความกังวลคือเรื่องของอนาคต เราต้องให้นักกีฬามีความสบายใจว่าถ้าเขาเป็นตัวแทนประเทศ เมื่อวางมือแล้วเขาจะสามารถมีหน้าที่การงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตรงนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล โดยกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ที่ต้องพิจารณาจ้างเขาเข้ามาทำงาน เป็นการดูแลบุคลากรที่ทําชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ซึ่งที่ผ่านมาภาคเอกชนได้ช่วยเยอะมากครับ”

“ดีใจครับที่วันนี้ได้เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน รอยยิ้มวันนี้เกิดขึ้นได้เพราะพวกท่านทุกคนครับ”

ทั้งนี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย เพิ่งเคยประกาศระดมทุนมามอบให้ทีมชาติไทย แต้มละ 3,000,000 บาท ในเกมที่ทัพช้างศึก เปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่เกมดังกล่าวจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทยที่พ่าย โสมขาว 0-3

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ