ผู้ตัดสินชื่อดังของไทย อธิบายเหตุร่วม ทีมสต๊าฟฟ์ช้างศึก U23ก่อนลุยทัวร์นาเมนต์ ระดับนานาชาติ

วันที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลา 17.30 น. ณ สนามซ้อม สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงฝึกซ้อมต่อเนื่อง ในแคมป์แรก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการลุยทัวร์นาเมนต์ ระดับนานาชาติ ในปี 2566 

การฝึกซ้อมครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเน้นเรื่องการสอนเรื่องกติกาของฟุตบอล ทั้งในและนอกสนาม โดยเป็นจังหวะการเล่นบิวท์ อัพที่สำคัญ รวมถึง การเล่นลูกตั้งเตะที่นักกีฬาต้องระวัง โดยได้รับคำแนะนำจาก ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินระดับ ฟีฟ่า อีลิต​ 

ก่อนการฝึกซ้อม ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินระดับ ฟีฟ่า อีลิต กล่าวว่า “ส่วนตัวผมก็ทราบอยู่แล้วว่า นักกีฬาพอจะทราบเรื่องกติกาอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางส่วนที่เฉพาะเจาะจง ในการเล่นตามแนวทางของโค้ช อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ต้องการให้น้องเข้าใจทั้งหมด​ ที่จะไม่ทำให้เราเสียเปรียบ หรือผิดกติกา ทางโค้ชเลยอยากให้ผมมาแนะนำ นี่คือวัตถุประสงค์หลัก ในการเข้ามาแนะนำน้องๆ ในทีมชาติ”

“การอบรมภาคสนาม เป็นเป้าประสงค์หลักของเฮดโค้ช เพราะที่ผ่านมา เราก็เคยไปพรีเซนต์กับน้องๆ ในห้องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แต่น้องๆ เป็นนักกีฬาฟุตบอล เขาไม่ได้เกิดมานั่งเรียน แต่ถ้าเกิดในสนามจริง ผมสามารถแนะนำน้องๆ ว่าอะไรทำไม่ได้ อะไรทำได้ ยกตัวอย่างการเล่นลูกนิ่งที่จะมีนักกีฬาไปยืนบังผู้รักษาประตู หรือการยืนตำแหน่งกับกำแพง นี่คือสิ่งที่เฮดโค้ชอิสสระ มองว่า ถ้าผมได้อยู่ข้างสนาม อาจจะช่วยน้องได้ในระดับหนึ่ง ผิดหรือถูกก็ว่ากันไป”

“ส่วนตัวผมมองว่าการรู้กติกา ไม่ได้ทำให้เราได้เปรียบ แต่จะทำให้เราไม่เสียเปรียบมากกว่า เพราะกติกา เขียนมาเพื่อให้ เกมฟุตบอลมีความยุติธรรม ถ้าคุณไม่เสียเปรียบ โอกาสที่จะเกิดขึ้นมันก็จะเป็นข้อดี”

“อยากฝากน้องๆ ในนามผู้ตัดสิน ก็เป็นหน้าที่หลักของผม สำหรับนักฟุตบอลรู้กติกามากกว่าคนอื่น เมื่อลงไปเล่นจะทำให้เราไม่เสียใบเหลืองแบบง่ายๆ หรือจะไม่โดนใบแดงแบบง่ายๆ “

ทีมชาติไทย U23 จะมีโปรแกรมอุ่นเครื่องสองนัด พบกับ ทีมชาติ สปป.ลาว ชุดใหญ่ ที่ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ในวันที่ 11 และ 14 ธันวาคม 2565 เวลา 17.30 น. โดยจะถ่ายทอดสด เกมที่สอง ทาง AIS Play

สำหรับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เพิ่งแต่งตั้ง  อิสสระ ศรีทะโร เข้ารับหน้าที่หัวหน้าผู้สอนอย่างเป็นทางการ ต่อจาก “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ ที่ประกาศอำลาทีมไปหลังตกรอบ เอเชียน คัพ 2022 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมทีมงานเต็มสูบทั้ง จเด็จ มีลาภ เป็นที่ปรึกษา , อนันต์ อมรเกียรติ ที่ปรึกษาด้านเทคนิค ส่วนผู้ช่วยผู้ฝึกสอน คือ บำรุง บุญพรหม , โค้ชประตู คือ ดร.ประสบโชค โชคเหมาะ , โค้ชกองกลาง ครองพล ดาวเรือง , นักวิเคราะห์เกม คือ ประสิทธิ์ เทาดี รวมถึง ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินระดับ ฟีฟ่าที่มีดูแลเรื่องกติกา เพื่อแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ และ ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ในปี 2023 พร้อมมีเป้าหมายสูงสุดคือ โอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส

ข่าวฟุตบอลไทยอื่น ๆ