เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูแอสตัน วิลลา ออกมาเปิดเผยบทสนทนาที่เขาพูดกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าปารีส แซงต์ แชร์กแมง หลังจากที่ ทีมชาติฝรั่งเศส พ่ายการดวลจุดโทษให้กับ ทีมชาติอาร์เจนตินา ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ ที่ กาตาร์

การโคจรมาพบกันของ ทัพฟ้าขาว และ ทีมตราไก่ ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ฟุตบอลโลก รอบชิงชนะเลิศ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อทั้ง 2 ทีมเสมอกันในเวลา 120 นาที ไปแบบสุดมันส์ 3-3 และยังหาผู้ชนะไม่ได้ จึงต้องชี้ขาดผลการแข่งขันด้วยการดวลจุดโทษสุดเร้าใจ

เกมดังกล่าวจะเป็นเกมที่ถูกจดจำไปชั่วกัลปวสาน เมื่อ ลิโอเนล เมสซี คว้าถ้วยรางวัลที่นักฟุตบอลทุกคนบนโลกต่างใฝ่ฝันถึง เช่นเดียวกับที่ ดิเอโก้ มาราโดนา ผู้ล่วงลับเคยทำได้ พร้อมยุติเส้นทางการร้างแชมป์ฟุตบอลโลกมานานนับ 36 ปี ของ ทีมชาติอาร์เจนตินา ลง

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ศูนย์หน้าวัย 24 ปี จะถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ด้วย ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัวต้องการก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น หัวหอกเลือดน้ำหอม เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการชูโทรฟีเวิลด์คัพ 2018 ของ ทีมชาติฝรั่งเศศ เนื่องจาก เจ้าตัวปิดม่านทัวร์นาเมนต์ลงได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำประตูในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยวัยเพียง 19 ปี

ที่สำคัญ เอ็มบัปเป้ เกือบทำสำเร็จ พร้อมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตัวเองอีกครั้งใน กาตาร์ ก่อนในท้ายที่สุด ผลการแข่งขันจบลงด้วยความพ่ายแพ้

อย่างไรก็ดี หลังจากที่ เหล่าพลพรรคฟ้าขาว ต่างพากันเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะที่ได้รับ มีภาพถูกจับได้ว่า มาร์ติเนซ ได้เข้าไปปลอบ เอ็มบัปเป้ อย่างชัดเจน โดยเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยบทสนทนาในวันนั้นผ่าน TyC Sports ไว้ว่า

“ผมบอกให้เขาลุกขึ้น และเดินหน้าต่อไป เขาไม่ควรที่จะนั่งกองอยู่บนพื้น แต่ควรภูมิใจกับเกมที่เขาได้เล่น ซึ่งนั่นเป็นความจริง”

“เขายิงผ่านมือของผมไปได้ถึง 4 ประตู เพราะฉะนั้น คนที่ควรจะไปนั่งกองอยู่บนพื้นควรจะเป็นผมมากกว่า”

ทั้งนี้ การแสดงออกด้วยท่าล้อเลียนหลังการเซฟจุดโทษ และระหว่างการขึ้นรับรางวัลถุงมือทองคำของ นายด่านวัย 30 ปี ทำเอาให้หลายๆ คนเข้าใจผิดคิดว่า เขาไม่ให้เกียรติคู่แข่ง จนทำให้เจ้าตัวถูกประณามอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว

ข่าว ฟุตบอลต่างประเทศ อื่นๆ