สำหรับการแข่งขันศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ วันที่ 22 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นคู่แข่งขันระหว่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา พบ ทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งบทความนี้พวกเรา EkingsNews ได้ทำการรวบรวมผลการแข่งขัน และประเด็นที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นมาไว้ที่นี่หมดแล้ว

การโคจรมาพบกัน อาร์เจนตินา และ ฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นมวยถูกคู่ เนื่องจากถ้วยแชมป์ใบนี้มีความหมายมากมายสำหรับทั้ง 2 ทีม

สำหรับทางด้าน ทัพฟ้าขาว เชื่อว่า ผู้เล่นทุกคนภายในทีมต้องวิ่งลืมตายถวายหัวเพื่อ ลิโอเนล เมสซี หนึ่งในดาวเตะที่เก่งที่สุดในประวัติศาตร์อาร์เจนตินา อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกเวิลด์ คัพ หนนี้ ที่เจ้าตัวเพิ่งประกาศก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ว่า นี่จะเป็นการแข่งขันรายการเวิลด์ คัพ ครั้งสุดท้ายของเขาแล้วจริงๆ ดังนั้น พลพรรค ลา อัลบิเซเลสเต จึงไม่อาจปล่อยให้โอกาสทองนี้หลุดลอยไปเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2014

อีกด้านหนึ่ง ทัพตราไก่ เข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศในฐานะแชมป์เก่า และสำหรับการชูโทรฟีใบนี้เหนือ ลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม ย่อมมีความสำคัญสำหรับพวกเขาไม่แพ้กัน เนื่องจากสถิติการป้องกันแชมป์ถ้วยใบนี้ครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1962 ที่ บราซิล เคยทำเอาไว้ ดังนั้น เกมชี้ชะตาในวันนี้กำลังรอให้พวกเขาจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่อยู่  

อาร์เจนตินา 2-2 ฝรั่งเศส (3-3 ช่วงต่อเวลาพิเศษ, 4-2 จุดโทษ)

อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 มาครองได้สำเร็จ หลังดวลจุดโทษเอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 4-2 ส่งผลให้ฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของ ลิโอเนล เมสซี จบลงอย่างสวยงาม

ภาพรวมของเกม ถือว่าทั้ง 2 ทีมต่างทำได้ดีกันฝั่งละครึ่งเวลา โดยทางด้าน ทัพฟ้าขาว ทำได้ดีกว่าในช่วงครึ่งเวลาแรก หลังเป็นฝ่ายที่ได้ครองเกม และโถมบุกเข้าใส่คู่แข่งอยู่ฝ่ายเดียว จน ฝรั่งเศส โงหัวไม่ขึ้น อีกทั้งยังเป็นทีมที่ชิงความได้เปรียบไปก่อนจากการขึ้นนำถึง 2 ประตู

ก่อนที่ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ทัพตราไก่ จะมีโอกาสได้จบสกอร์ที่มากขึ้น และเล่นงานแนวรับของ ลา อัลบิเซเลสเต จนปั่นป่วน พร้อมคว้าโอกาสตีเสมอมาได้สำเร็จ ทว่าในท้ายที่สุด พวกเขากลับพลาดท่าแพ้ในการดวลจุดโทษ ส่งผลให้การป้องแชมป์ต้องประสบความล้มเหลว

ครึ่งแรก

นาทีที่ 21 อาร์เจนตินา ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ อุสมาน เดมเบเล ไปผลักใส่ อังเคล ดิ มาเรีย ล้มลงไป

นาทีที่ 23 อาร์เจนตินา ขึ้นนำ 1-0 จากการสังหารจุดโทษของ ลิโอเนล เมสซี

นาทีที่ 36 อาร์เจนตินา ทิ้งห่างออกไปเป็น 2-0 จากลูกยิงโล่งๆ ของ อังเคล ดิ มาเรีย

นาทีที่ 45+8 เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ได้รับใบเหลือง จากจังหวะตัดเกมสวนกลับของ ฝรั่งเศส

หมดเวลาการแข่งขันในช่วงครึ่งเวลาแรก อาร์เจนตินา ออกนำ ฝรั่งเศส ไปก่อน 2-0

ครึ่งหลัง

นาทีที่ 55 อาเดรียง ราบิโอต์ ได้รับใบเหลือง จากจังหวะเสียบสกัดใส่ โรดริโก้ เด ปอล

นาทีที่ 79 ฝรั่งเศส ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ไปดึง ร็องดาล โกโล มูอานี ล้มลงไป

นาทีที่ 80 ฝรั่งเศส ไล่มาเป็น 1-2 จากการสังหารจุดโทษของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้

นาทีที่ 81 ฝรั่งเศส ตีเสมอเป็น 2-2 จากลูกหวดวอลเลย์ของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้

นาทีที่ 87 มาร์กุส ตูราม ได้รับใบเหลือง จากจังหวะที่ผู้ตัดสินมองว่าเขาพุ่งล้ม

นาทีที่ 90+5 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปแล้ว ได้รับใบเหลือง จากจังหวะที่ไปโวยใส่ผู้ตัดสิน

นาทีที่ 90+8 มาร์กอส อคุนญา ได้รับใบเหลือง จากจังหวะตัดเกมสวนกลับของ ฝรั่งเศส

หมดเวลาการแข่งขันในช่วง 90 นาที อาร์เจนตินา เสมอกับ ฝรั่งเศส 2-2

ช่วงต่อเวลาพิเศษ

นาทีที่ 109 อาร์เจนตินา แซงนำอีกครั้ง เป็น 3-2 จากลูกยิงซ้ำเข้าไปของ ลิโอเนล เมสซี

นาทีที่ 114 เลอันโดร ปาเรเดส ได้รับใบเหลือง จากจังหวะเสียบสกัดใส่ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า

นาทีที่ 116 กอนซาโล มอนเทียล ได้รับเหลือง และทำทีมเสียจุดโทษ จากจังหวะแฮนด์บอล

นาทีที่ 118 ฝรั่งเศสตีเสมอเป็น 3-3 จากการสังหารจุดโทษของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และเป็นการทำแฮตทริกของเขา

จบการแข่งขันในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที อาร์เจนตินา เสมอกับ ฝรั่งเศส 3-3

จุดโทษ (อาร์เจนตินา 4-2 ฝรั่งเศส)

อาร์เจนตินาฝรั่งเศส
ลิโอเนล เมสซี (เข้า)คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (เข้า)
เปาโล ดีบาลา (เข้า)คิงส์ลีย์ โกมัน (ไม่เข้า)
เลอันโดร ปาเรเดส (เข้า)ออเรเลียง ชูอาเมนี (ไม่เข้า)
กอนซาโล มอนเทียล (เข้า)ร็องดาล โกโล มูอานี (เข้า)

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • อูโก้ โญริส ผู้เล่นที่รับใช้ ทีมชาติฝรั่งเศส มากที่สุดตลอดกาล บวกสถิติลงเล่นเพิ่มเป็น 145 นัดในเกมนี้
  • ลิโอเนล เมสซี ทำลายสถิติลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกมกาที่สุดตลอดกาล แซงหน้า โลธาร์ มัทเธอุส เป็น 26 นัด
  • ช่วงครึ่งเวลาแรก ฝรั่งเศส มีโอกาสเข้าทำ 0 ครั้ง
  • ลิโอเนล เมสซี เป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูในศึกฟุตบอลโลกได้ตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ
  • ลิโอเนล เมสซี ทำประตูในศึกฟุตบอลโลกแซงหน้า เปเล่ เป็นที่เรียบร้อย (13 ประตู)
  • ดูเหมือนว่าลูกจุดโทษที่ อาร์เจนตินา ได้ จะเป็นการทำฟาล์วที่ไม่รุนแรง แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าอย่างไม่ลังเล
  • ฝรั่งเศส ไม่เคยพ่ายใน 90 นาที ของการแข่งขันศึกฟุตบอลโลก รอบชิงชนะเลิศ มาก่อน
  • คิลิยัน อัมบัปเป้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ด้วยการทำไปทั้งสิ้น 8 ประตู
  • การทำแฮตทริก ในศึกฟุตบอลโลก รอบชิงชนะเลิศ เกิดขึ้นครั้งสุดท้าย ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1966 จาก เซอร์ เจฟฟ์ เฮิร์สต์
  • ทำเนียบดาวซัลโวศึกฟุตบอลโลกสำหรับนักเตะที่ยังคงค้าแข้งอยู่ 3 อันดับแรก มีดังนี้ ลิโอเนล เมสซี 13 ประตู, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ 12 ประตู และ โธมัส มุลเลอร์ 10 ประตู
  • เลาตาโล มาร์ติเนซ ทำประตูในศึกฟุตบอลโลก 2022 ไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว
  • เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ได้รับรางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์
  • เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ได้รับรางวัล ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์
  • ลิโอเนล เมสซี ได้รับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์
  • คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้รับรางวัล รองเท้าทองคำของทัวร์นาเมนต์

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ