มีรายงานว่า ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมแก้ไขกฏการทดเวลาบาดเจ็บหลังหมดเวลา 90 นาทีใหม่ โดยใช้แนวทางที่คล้ายคลึงกับของ ฟีฟ่า บนเวทีฟุตบอลโลก 2022

เมื่อสิ้นสุดทัวร์นาเมนต์ที่ กาตาร์ ความยาวเฉลี่ยของการแข่งขันแบบไม่นับช่วงต่อเวลาพิเศษอยู่ที่ 102 นาที ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของศึกฟุตบอลโลกปี 2018 4 นาที และยูโร 2020 5 นาที

ยิ่งไปกว่านั้น 43 จาก 62 เกม ในทัวร์นาเมนต์เวิลด์คัพ 2022 นับเป็นจำนวนที่มากกว่า 1 ใน 3 ของการแข่งขันทั้งหมดที่มีการทดเวลาบาดเจ็บเกิน 100 นาที โดยนัดเปิดสนามของ ทีมชาติอังกฤษ พบกับ ทีมชาติอิหร่าน สร้างมาตรฐานใหม่ ด้วยการใช้เวลาการแข่งขันนานถึง 117 นาที

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทดเวลาบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตา นั่นคือ การใช้ VAR ตัดสิน, การเบรกเกมเมื่อมีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ, การเปลี่ยนตัว, จุดโทษ และ ใบแดง รวมถึงการถ่วงเวลาของนักเตะ

ตามรายงานของ The Times ระบุว่า คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ ออกกฏให้ พรีเมียร์ลีก และการแข่งขันอื่นๆ ภายในประเทศอังกฤษ ต้องเพิ่มช่วงทดเวลาบาดเจ็บขึ้นในฤดูกาลหน้า

อย่างไรก็ดี หากกติกาเปลี่ยนไปเป็นการแข่งขันแมตช์ละ 100 นาที นั่นจะทำให้ประตูของ รีสส์ เนลสัน ในนาทีที่ 97 เกมระหว่าง อาร์เซนอล พบ บอร์นมัธ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ อาจกลายเป็นเรื่องธรรมดาในวงการฟุตบอลอังกฤษ นับตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป

ที่สำคัญ จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า อ้างว่า หากนับเวลาที่ลูกบอลอยู่ในสนามสำหรับศึกฟุตบอลโลกคิดเป็นระยะเวลาโดยเฉลี่ย 60 นาที จะเทียบได้กับพรีเมียร์ลีก 55 นาทีเท่านั้นในซีซั่นนี้

เหนือสิ่งอื่นใด ในการประชุมประจำปีของ คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ ไอเอฟเอบี ณ กรุงลอนดอน ประมุขลูกหนังโลก ได้กล่าวไว้ว่า

“เราต้องการต่อสู้กับเวลาที่สูญเสียไป เราต้องให้แฟนๆ สนุกไปกับเกม เราได้เห็นแล้วว่าเวลาโดยเฉลี่ยในศึกฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดเพิ่มขึ้นราว 10 นาที และมีเวลาที่เล่นกันจริงๆ 60 นาที”

“ทุกคนๆ ต่างพากันชื่นชมกฏข้อนี้กันอย่างกว้างขวาง และเราต้องทำให้แน่ใจว่ากฏข้อนี้จะถูกนำไปใช้ในระดับสากล”

“เราได้เห็นการใช้กฏเหล่านี้ในเกมที่มีการถ่วงเวลาเกิดขึ้น โดยปัจจุบันบางลีกมีการแข่งขันจริงเพียงแค่ 50 นาที และบางลีก 60 นาที”

“เราจะตรวจสอบลีกทั่วโลก แต่เราจะไม่เปลี่ยนกฏของเกม และจะไม่มีการหยุดเวลา”

ข่าว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อื่นๆ