ฟุตบอลในยุคปัจจุบัน หากผู้เล่นคนหนึ่งสามารถเล่นได้เพียงตำแหน่งเดียวมันอาจไม่เพียงพออีกต่อไป บางครั้งก็อาจจำเป็นต้องรับบทบาทอื่นบ้างในยามที่เพื่อนร่วมทีมบาดเจ็บ หรือกรณีที่คุณอาจเหมาะสมกับตำแหน่งอื่นสำหรับระบบของทีมนั้นๆ

หากมีคำถามที่ว่า ใครคือผู้เล่นที่มีความสามารถหลากหลายที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้? เมื่อไล่ดูแล้วถึงว่ามีเยอะทีเดียว แต่จะมีสักกี่คนกันที่เล่นได้หลากหลาย และได้คุณภาพ ดังนั้นเราจะมาดูกันว่า ใครคือผู้เล่นที่มีคุณสมบัติแบบนี้?

เจมส์ การ์เนอร์

เอฟเวอร์ตัน มีปัญหาอาการบาดเจ็บในตำแหน่งแบ็กขวาในฤดูกาลนี้ โดยมี เจมส์ การ์เนอร์ ถูกขยับขึ้นไปเล่นแทน นับตั้งแต่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมท๊อฟฟี่ การ์เนอร์ ได้รับความไว้วางใจอย่างมากในบทบาทนี้

การ์เนอร์เป็นกองกลางตัวรับ มักถูกเล่นทางฝั่งขวาภายใต้การคุมทีมของ ฌอน ไดช์ กุนซือคนปัจจุบันเราเริ่มต้นด้วยบทบาทวิงแบ็กมากกว่าตำแหน่งกลางรับ ก่อนที่ ฌอน ไดช์ จะเปลี่ยนไปเล่นแบ็คโฟร์ และตอนนี้เขาเป็นแบ็กขวาของทีมเต็มตัวไปแล้วเรียบร้อย

แต่ก็มีบางเกมที่การ์เนอร์เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก เขาก็สามารถที่จะรบกวนแนวรับของฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน

คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์

ความเก่งกาจของเขาไม่ใช่แค่สามารถเล่นเซ็นเตอร์แบ็คและกองหน้าได้ แต่ยังอาจหมายถึงความพร้อมในการเล่นทุกตำแหน่งในแนวรับด้วย และนั่นคือสิ่งที่ คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์ ทำให้กับเบรนท์ฟอร์ด

นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว เอเยอร์ เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คทั้งสามตำแหน่งจากสามแนวหลัง แม้ว่าจะชอบตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวกลางที่สุดก็ตาม เขายังเล่นทั้งแบ็คซ้ายและแบ็กขวา โดยมีบางครั้งที่รับหน้าที่ในตำแหน่งวิงแบ็กด้วย

เหนือสิ่งอื่นใด เอเยอร์ ลงเล่น 13 นาทีในตำแหน่งกองกลางตัวรับ แม้ว่าเราจะไม่นับว่ามากพอจะจัดว่ากองหลังรายนี้มีความสามารถรอบด้านในเรื่องนั้นก็ตาม แต่ไม่ว่าอาเยอร์จะเล่นตรงไหน เขาก็เชื่อถือได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่นสารพัดประโยชน์

รายาน ไอต์-นูรี

หมาป่าวูล์ฟส์ ชอบเล่นระบบที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีประโยชน์ที่จะมีผู้เล่นที่สามารถเล่นได้หลายบทบาท และนั่นคือสิ่งที่พวกเขามีในตัว รายาน ไอต์-นูรี

เขาเล่นได้ดีที่สุดในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย ซึ่งเขาสามารถรุกได้มากขึ้น แต่ ไอต์-นูรี ก็ได้ลงเล่นในฐานะแบ็กซ้ายแบบดั้งเดิมอยู่หลายครั้ง และมีบางจังหวะอยู่ทางขวาด้วยซ้ำ แม้ว่าวูล์ฟส์จะไม่ได้ประโยชน์จากเขามากนักในตำแหน่งดังกล่าวก็ตาม

เดยัน คูลูเซฟสกี้

เดยัน คูลูเซฟสกี้ คือนักเตะที่ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่ต้องการ ไม่ว่าคุณจะให้เขาเล่นตรงไหน เขาจะทุ่มเททั้งหมดเพื่อทีม และ อังเก้ ปอสเตโคกลู ก็ใช้สิ่งนั้นให้เกิดประโยชน์กับทีมของเขาที่สเปอร์ส

เมื่อคูลูเซฟสกี้ย้ายมาร่วมทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะปีกริมเส้น เขาพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ในตำแหน่งนั้น

แต่ในฤดูกาลนี้ นักเตะชาวสวีเดนได้ค้นพบตำแหน่งอื่นของเขาแล้วในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางของ อังเก้ มักจะเล่นเคียงข้าง เจมส์ แมดดิสัน โดยที่ โรดริโก้ เบนตันกูร์ ออกสตาร์ทในตำแหน่งที่ลึกกว่า โดยในฤดูกาลนี้เพียงฤดูกาลเดียว เขาสามารถชนะการครองบอลในพื้นที่สุดท้ายได้ 11 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก

ฟิล โฟเด้น

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชอบนักเตะสารพัดประโยชน์ คุณจะไม่สามารถอยู่ในทีมของเขาได้จริงๆ ถ้าคุณทำไม่ได้ และในตัว ฟิล โฟเด้น ก็ถือว่าตรงสเป็ค กวาร์ดิโอล่า เขานักเตะที่มีความสามารถรอบด้านและดีจริงๆ

นับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลที่แล้ว โฟเด้น เล่นได้เกือบทุกตำแหน่งในตำแหน่งกองกลางและตัวรุกให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่นอนว่าเราคุ้นเคยกับการเห็นเขาเล่นตำแหน่งปีกขวา และนั่นคือจุดที่เขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการลงเล่น แต่เขาก็ใช้เวลาอยู่กับการเล่นฝั่งซ้ายไม่น้อยเช่นกัน

โฟเด้น ไม่จำเป็นต้องเล่นเป็นกองหน้าร่วมกับ เออร์ลิง ฮาลันด์ มากนัก แต่เราได้เห็นโฟเด้นสอดขึ้นไปยิงอยู่หลายครั้งและเป็นประตู แม้จะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในฤดูกาลนี้ แต่ โฟเด้น ยังคงมีส่วนร่วมโดยตรงกับ 27 ประตูในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2023-24

โคล พาลเมอร์

โคล พาลเมอร์

โคล พาลเมอร์ คือผู้ที่ทำให้กับเชลซีกลับมาสดชื่นอีกครั้ง ทั้งที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าเขาจะสร้างอิมแพคให้กับทีมนับตั้งแต่ย้ายมาจาก แมนฯ ซิตี้ เพื่อร่วมทีมสิงห์บลูส์เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว

นับตั้งแต่เขาประเดิมสนามให้เชลซีในพรีเมียร์ลีก พาลเมอร์ มีส่วนร่วมโดยตรงกับประตูมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในลีก (44 ประตู) สิ่งนี้มาจากการขึ้นเกมทางฝั่งขวาของ พาลเมอร์ เป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็ตรงกลาง

แต่ที่จริงแล้วดาวเตะทีมชาติอังกฤษก็สามารถสร้างผลงานได้จากทั่วทั้งสนาม เพราะนอกจากจะเป็นปีกแบบดั้งเดิมแล้ว พาลเมอร์ยังสามารถเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวกลางและเป็นกองหน้าของเชลซีในรูปแบบ false nine ได้อีกด้วย เพราะความสามารถอันเอกอุของ พาลเมอร์ ทำให้โค้ชสามารถวางให้เขาสามารถสร้างเกมรุกจากส่วนไหนก็ได้ของสนาม