อาร์เซนอล บรรลุข้อตกลงเซ็นสัญญายืมตัว ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวจี๊ดของ เชลซี ที่ย้ายมาทันในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย และพวกเขาจ่ายค่าจ้างน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่เชลซีจ่ายให้

สเตอร์ลิง อยู่ในห้องแต่งตัวของอาร์เซนอล หลังจบเกมที่เสมอกับไบรท์ตัน 1-1 ซึ่งเขาเห็นเพื่อนร่วมทีมใหม่หลายคนโกรธเคืองกับผลงานของผู้ตัดสิน มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมยิ่งโกรธมากขึ้น แต่ก็ยังสงบสติอารมณ์ลงได้ ความรู้สึกของ อาร์เซนอล ในตอนนี้มองว่า สเตอร์ลิง จะสามารถยกระดับทีมได้ในบางแง่มุม นี่คือเหตุผลที่อาร์เตต้ากระตือรือร้นอย่างมากเกี่ยวกับดีลนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ สเตอร์ลิง โล่งใจหลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์อันตึงเครียด และการเจรจาขั้นสุดท้ายที่ยากลำบาก เพราะหากดีลนี้จบลงไม่ได้ อดีตปีกทีมชาติอังกฤษ อาจไม่ได้ลงสนามเลยตลอดเลกแรก

อาร์เซนอล ต้องการเพิ่มตัวเลือกในแนวรุกตลอดทั้งตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ เนื่องจากตระหนักดีว่าแนวรุกของพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ความต้องการผู้เล่นตำแหน่งนี้ และน่าจะเป็นเป้าหมายสูงสุดของ อาร์เซนอล คือ นิโก้ วิลเลียมส์ แต่ในที่สุดเขาก็ต้องการย้ายไปบาร์เซโลนา มากกว่า รวมถึงดีลของ เบนจามิน เซสโก้  กองหน้าฝีเท้าดีของไลป์ซิก ที่เดินทางมาดูสโมสรแล้ว แต่ดีลก็ล่ม เมื่อนักเตะเลือกค้าแข้งกับทีมเดิมต่อไป รวมถึง อเล็กซานเดอร์ อิซัค หัวหอกทีมชาติสวีเดน ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก็พลาดย้ายมาร่วมงานที่ เอมิเรตส์ สเตเดียม แห่งนี้

สโมสรไม่ได้ติดลิมิตของกฎการเงินและความยั่งยืน แต่การขาย เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ให้กับ คริสตัล พาเลซ และปล่อยยืม รีสส์ เนลสัน ไปให้ ฟูแล่ม เป็นที่เข้าใจกันว่าช่วยเซฟเพดานเงินค่าจ้างของสโมสรได้มากกว่า 100,000 ปอนด์

ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ อาร์เซนอล รู้สึกว่าเป็นการดีที่สุดที่จะรอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พวกเขาวิเคราะห์ตลาดซื้อขายอย่างเงียบๆ เพราะรู้ว่ามีหลายสโมสรจำเป็นต้องขายผู้เล่นออกไป โดยเฉพาะเชลซี คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน ที่ผู้เล่นแทบจะอัดกันแน่นโรงยิม เนื่องจากเสริมผู้เล่นเยอะ แต่ก็ยังขายผู้เล่นเดิมออกไปไม่ได้ทั้งหมด และนั่นจะนำมาซึ่งโอกาสในการดีลกับนักเตะฝีเท้าดีในชั่วโมงท้ายๆ ของเดดไลน์ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

พวกเขาไม่ต้องการเร่งรีบอะไร และรอผู้เล่นที่เหมาะสมหลุดเข้ามาในตลาด ตอนนี้อาร์เซนอลรู้สึกว่าพวกเขามีขุมกำลังที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้วและรอเสริมอีกแค่ไม่กี่จุด ดังนั้นการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่รายใดก็ตามจะต้องเหมาะสม ยกตัวอย่างในรายของ อิวาน โทนี่ย ซึ่งอาร์เตต้ารู้สึกว่าเคมีไม่เข้ากันกับทีม ดังนั้นเขาไม่ต้องการเข้าสู่ตลาดซื้อขายเพียงแค่อยากจะดึงใครก็ได้มาสักคน เพราะเขารู้ดีว่าจะมีผลเสียตามมา และมันสามารถจำกัดตัวเลือกได้ เขาต้องการสร้างทีมที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างประณีตที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากนั่นจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถมองเห็นทีมชุดที่สามารถทลายขีดจำกัดได้ดีกว่า

สเตอร์ลิง กลายเป็นตัวเลือกแรก แต่ไม่มีการพูดคุยอย่างจริงจังระหว่างอาร์เซนอลและเชลซีจนกระทั่งบ่ายวันพฤหัสบดีก่อนเส้นตาย สถานการณ์ของนักเตะวัย 29 ปีรายนี้กำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงปัญหาที่เพิ่มขึ้นสำหรับการพูดคุยเพื่อย้ายออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์

ในขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นอีกทีมที่ให้ความสนใจเช่นกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ แดน แอชเวิร์ธ ชื่นชม สเตอร์ลิง และทั้ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ คริสตัล พาเลซ ต่างก็ปฏิเสธโอกาสที่จะเซ็นสัญญากับเขา เนื่องจากมีความกังวลว่า สเตอร์ลิง เล่นฟุตบอลมามากตั้งแต่อายุ 17 ปี ดังนั้นร่างกายของเขาจึงน่าจะใช้งานหนักจนมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ

แต่ อาร์เตต้า ก็เหมือนกับแอชเวิร์ธ ที่ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนั้น เขารู้สึกว่า สเตอร์ลิง ยังเล่นได้หากเล่นในระบบที่เหมาะสม ดังที่เห็นในช่วงสั้นๆ ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มันจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของความกระตือรือร้นในการเซ็นสัญญากับเขา เนื่องจากตัวรุกรายนี้เข้าใจแนวทางแท็คติกของ อาร์เตต้า จากการที่เคยร่วมงานกันที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และความคล้ายคลึงกับของระบบ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพร่างกายของ สเตอร์ลิง

แต่ขณะเดียวกัน อาร์เตต้า กังวลเรื่องความฟิตของ บูกาโย่ ซาก้า มากกว่า พวกเขาตระหนักดีถึงการใช้งานดาวรุ่งรายนี้มากเกินไป จากการที่พวกเขาจะต้องลงเล่นเกือบทุกๆ 3 วันเป็นเวลาติดต่อกัน 3 เดือนหลังจากการพักเบรคทีมชาติ

นอกจากนี้ อาร์เตต้า คิดว่า สเตอร์ลิง มีความเป็นผู้นำซึ่งส่งผลดีต่อเพื่อนร่วมทีม สเตอร์ลิง ยังสามารถนำประสบการณ์มาสู่แข้งดาวรุ่งปืนใหญ่ในตอนนี้ หลังจากคว้าแชมป์มากมายกับ แมนฯซิตี้

ทุกอย่างดูสมเหตุสมผลสำหรับอาร์เตต้า ดังนั้นสโมสรจึงเดินหน้าเพื่อจบดีลนี้ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ปัญหาแรกคือสัญญาของเขากับเชลซีที่ค่าเหนื่อย 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยทางเอเย่นต์ของนักเตะยืนกรานว่าเขาควรได้รับค่าตอบแทนนี้ แต่ สเตอร์ลิง ยังคงเต็มใจที่จะลดค่าจ้างที่อาร์เซนอลในกรณีที่มีการย้ายแบบถาวร เห็นได้ชัดว่าจะต้องมีการเจรจาหลายอย่างเพื่อให้ทันกำหนดเส้นตาย จึงมีการเพิ่มทางเลือกในการยืมตัวแทน

ในขณะที่เชลซียืนกรานที่ให้จ่ายค่ายืมตัวสำหรับนักเตะทุกคนที่เซ็นสัญญาย้ายทีมชั่วคราว แต่อาร์เซนอลก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสิ่งนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นสำหรับพวกเขา ท้ายที่สุดแล้ว ความต้องการของเชลซีในการโละผู้เล่นออกไปสำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในการพูดคุยกัน

อาร์เซนอลรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในการเจรจา มันส่งผลให้เกิดข้อตกลงที่ไม่มีการจ่ายค่ายืมตัว และตอนนี้อาร์เซนอลจ่ายน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง 325,000 ปอนด์ ที่ สเตอร์ลิง ได้รับกับ เชลซี นอกจากนี้ผู้ที่ใกล้ชิดกับการเจรจาบางคนยืนยันว่า ปืนใหญ่ จ่ายค่าเหนื่อยให้ สเตอร์ลิง เพียง100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น ตามข้อตกลงของทั้ง 2 สโมสร

ในคืนวันศุกร์ หลังจากการเจรจาที่ยากลำบาก ก็มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สเตอร์ลิง รู้สึกยินดี ส่วนทางฝั่ง อาร์เซนอล ก็ยิ้มออกกับสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่านี่คือดีลที่ยอดเยี่ยม แม้มู้ดของทีมจะเปลี่ยนไปเมื่อสะดุดเสมอ ไบรท์ตัน 1-1 แต่พวกเขาก็หวังว่า สเตอร์ลิง จะสามารถช่วยให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้นได้

ข่าวฟุตบอลที่เกี่ยวข้อง

การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ 2024

5 ดาวรุ่งฝีเท้าดีที่น่าจับตามอง ในพรีเมียร์ลีก 2024/25

ซาฮา เปรย โรนัลโด้ มีโอกาสคัมแบ็ค แมนฯ ยูไนเต็ด