อนาคตของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นแกนหลักของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่มาถึงวันนี้ยังไม่แน่นอนกับอนาคตการค้าแข้งของตัวเอง เมื่อฟอร์มการเล่นยังคงย่ำแย่ต่อเนื่อง
กองหน้าชาวอังกฤษกำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวัย 27 ปี แรชฟอร์ดเป็นส่วนหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่สมัยยังเป็นดาวรุ่งร่างผอมบาง แต่ฟอร์มการเล่นของเขาทำได้ไม่ดีนักในช่วงหลัง รวมไปถึงประเด็นเรื่องนอกสนามที่ทำให้อนาคตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
แม้จะมีฤดูกาลที่ยากลำบาก เมื่อทำได้เพียง 7 ประตูและ 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 23 นัด แต่แรชฟอร์ดยังคงเป็นผู้เล่นที่เป็นที่ต้องการอย่างมากของหลายทีม ตามรายงานจาก เดลี่ เมล ผู้อำนวยการด้านกีฬาของสโมสรได้ตั้งป้ายราคาของเขาไว้ที่ 40 ล้านปอนด์
แน่นอนว่า ผลงานของเขาในฤดูกาลนี้ไม่ได้มาตรฐานที่ควรเป็น โดยกองหน้ารายนี้ก็ดูจะไม่ได้เป็นคนสำคัญภายใต้การคุมทัพของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง รูเบน อโมริม
ฟอร์มปัจจุบันของเขาทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเขาที่สโมสร แต่ แรชฟอร์ด ยังคงมีมูลค่าสูงในตลาดนักเตะ มีรายงานว่าสโมสรชั้นนำหลายแห่งสนใจที่จะคว้าตัวเขา โดยที่ บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และสโมสรต่างๆ จากซาอุดีอาระเบียต่างก็แสดงความสนใจ
ในเกมล่าสุดกับ วิคตอเรีย พัลเซ่น ในศึก ยูโรป้า ลีก แรชฟอร์ม ได้รับโอกาสลงสนามเป็น 11 คนแรก แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาแทบไม่ได้สร้างผลกระทบต่อทีม ยิ่งไปกว่านั้นยังคงถูกวิจารณ์เรื่องเดิม นั่นคือการเลี้ยงบอลแบบฉายเดี่ยวจนทำให้เพื่อนร่วมทีมเสียโอกาสในการทำเกมรุก จนทำให้เกมถัดมากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัวเขาและ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง
แต่จะมีเหตุผลอะไรอีกบ้าง ที่ทำให้ ปีศาจแดง ควรขายดาวเตะลูกหม้อรายนี้ออกจากทีม?
ผลงานไม่สอดคล้อง
แรชฟอร์ดน่าจะเป็นผู้เล่นที่เด็ดขาดที่สุดในแผงเกมรุกของ ยูไนเต็ด แต่ผลงานของเขายังไม่ได้อยู่ในจุดใกล้เคียงกับมาตรฐานที่ตั้งไว้
ครั้งสุดท้ายที่เขายิงประตูถึงเลขสองหลักในพรีเมียร์ลีกคือในฤดูกาล 2022/2023 เมื่อเขายิงได้ 17 ประตู ขณะที่ โคล พาลเมอร์ ของ เชลซี ที่เพิ่งแจ้งกิดไม่นาน ใช้เวลาเพียงหนึ่งฤดูกาลในการเอาชนะสถิติการยิงประตูในพรีเมียร์ลีกที่ดีที่สุดของ แรชฟอร์ด และนักเตะเชลซี้รายนี้ก็พร้อมที่จะทำประตูให้มากกว่าเขาอีกครั้ง
แมนฯยูไนเต็ด ต้องการผู้เล่นที่มีความสม่ำเสมอ และแรชฟอร์ดได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใช่คนนั้น…
การขายแรชฟอร์ดจะช่วยให้ ยูไนเต็ด ไม่ละเมิดกฎ PSR
การขายกองหน้าชาวอังกฤษจะช่วยให้ทีมปฏิบัติตามกฎ PSR หรือมีชื่อเต็ม ๆ ว่า Profitability and Sustainability แปลตรงตัวคือ “กฎเพื่อการทำกำไรและความยั่งยืน” ของทีมในพรีเมียร์ลีก
ปัจจุบัน แรชฟอร์ด มีรายได้ 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ทำให้เขากลายเป็นผู้มีรายได้สูงสุดเป็นอันดับสองของสโมสร มีเพียง คาเซมิโร่ คนเดียวที่มีรายได้มากกว่า
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังจะได้รับค่าตัวจำนวนมากหากขายเขา เขามีมูลค่าอยู่ที่ 40 ล้านปอนด์ และยูไนเต็ดไม่น่าจะยอมรับค่าตัวที่ต่ำกว่านี้ได้
รายได้จากการขายยังสามารถนำไปใช้เป็นเงินทุนในการซื้อ วิคเตอร์ เกียวเคเรส กองหน้าของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ที่เคยเป็นลูกทีมของ อโมริม หรือผู้เล่นคุณภาพอื่นๆ ที่พวกเขาสนใจได้อีกด้วย
ปี 2025 คือเวลาที่ดีที่สุดในการขายแรชฟอร์ด
แรชฟอร์ดจะฉลองวันเกิดปีที่ 28 ของเขาในเดือนตุลาคมปีหน้า การดึงเขาไว้จนถึงซัมเมอร์หน้าจะทำให้การขายเขาด้วยค่าตัวที่ทีมอื่นรับได้ทำได้ยากขึ้น
การย้ายไปยังลีกซาอุฯ อาจเป็นไปได้ แต่ แรชฟอร์ด อาจไม่เปิดรับแนวคิดนี้ เพราะตัวเขาเองก็ยังกระหายในความสำเร็จกับเส้นทางการค้าแข้ง
และการขายเขาตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวจะรับประกันความสนใจจากสโมสรต่างๆ ทั้งในอังกฤษและยุโรป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่ ยูไนเต็ด จะได้รับค่าตัวที่ใกล้เคียงกับมูลค่าของเขา