ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024/25 ปิดตัวลงไปแล้ว แม้จะมีระยะเวลาแค่หนึ่งเดือนนิดๆ แต่ก็มีดีลใหญ่เกิดขึ้นมากมายที่เรียกได้ว่า แต่ละสโมสรยอมจ่ายเพื่อดึงตัวมาเสริมทัพ
EKings News จึงได้คัด 5 ดีลที่แพงที่สุดที่เกิดขึ้นกับ พรีเมียร์ลีก ในตลาดครั้งนี้ จะมีดีลไหนบ้าง ติดตามพร้อมกันที่นี่
5. ดอนเยลล์ มาเลน – โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป แอสตัน วิลล่า, 22 ล้านปอนด์
มาร์คัส แรชฟอร์ด คือผู้เล่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดกับการย้ายมาร่วมทีมของ อูไน เอเมรี่ แต่การยืมตัวของเขายังห่างไกลในฐานะนักเตะย้ายทีมที่ค่าตัวแพงที่สุด
โดยเม็ดเงินการย้ายทีมที่ใหญ่ที่สุดที่ วิลล่า ใช้ไปคือค่าตัวของ มาเลน นักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่ย้ายมาจากดอร์ทมุนด์ในช่วงกลางเดือนมกราคม พวกเขาจ่ายค่าตัวเริ่มต้น 22 ล้านปอนด์ พร้อมส่วนเสริมมูลค่า 2 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะวัย 25 ปีรายนี้
แต่เงินจำนวนนั้นได้รับการชดเชยไปทั้งหมด ด้วยการขาย จาเด้น ฟิโลจีน กลับไปให้ อิปสวิช ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์, ขาย ดีเอโก้ คาร์ลอส ไปให้ เฟเนร์บาห์เช่ 8.5 ล้านปอนด์ และ จอห์น ดูรัน ให้ อัล นาสเซอร์ 71 ล้านปอนด์
4. แพทริค ดอร์กู – เลชเช่ ไป แมนฯ ยูไนเต็ด, 29 ล้านปอนด์
รูเบน อโมริม ต้องรอหลายสัปดาห์เพื่อเซ็นสัญญาผู้เล่นรายแรกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อเสริมตัวเลือกในแนวรับ
แมนฯยูไนเต็ด ต้องจ่ายเงินค่าตัวเริ่มต้น 25 ล้านปอนด์พร้อมโบนัสเพิ่มเติม 4 ล้านปอนด์สำหรับ ดอร์กู ซึ่งลงเล่นให้กับเลชเช่ในเซเรีย อา 57 นัดนับตั้งแต่เปิดตัวชุดใหญ่เมื่อต้นฤดูกาลที่แล้ว
นักเตะวัย 20 ปีเสริมความแข็งแกร่งในทันทีในตำแหน่งแบ็กซ้ายซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีปัญหา เนื่องจาก ลุค ชอว์ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย ไม่พร้อมลงสนามในระยะยาว โดยรายหลังก็ถูกปล่อยไปเล่นกับสโมสร พีเอสวี เรียบร้อยแล้ว
3. วิตอร์ ไรส์ – พัลไมรัส ไป แมนฯ ซิตี้, 29.6 ล้านปอนด์
นักเตะใหม่หนึ่งใน 3 คนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่อยู่ในลิสต์ โดยกองหลังวัย 19 ปี ถูกดึงมาจากพัลไมรัส โดย แมนฯซิตี้เอาชนะไบรท์ตัน, วูล์ฟส์ และอาร์เซนอล คว้าตัวมาได้ เดิมทีพัลไมรัสต้องการให้ไรส์อยู่ต่อจนจบฤดูกาล และเล่นให้พวกเขาในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก
อย่างไรก็ตาม ในแนวรับของซิตี้ เจอทั้งจากอาการบาดเจ็บและฟอร์มหลุด ส่งผลให้สโมสรยืนกรานว่า ต้องการเขามาร่วมทีมเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้ โดย ไรส์ ลงเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดแรกกับเชลซีและอาร์เซนอลตามลำดับ
2. อับดูโคดีร์ คูซานอฟ – ล็องส์ ไป แมนฯ ซิตี้, 33.5 ล้านปอนด์
นักเตะทีมชาติอุซเบกิสถาน ต้องทนแบกรับความกดดัน หลังย้ายมาจากลีกเอิงในฝรั่งเศสที่แฟนบอลทีมใหม่ต่างคาดหวังในตัวเขา
5 วันหลังจากปิดดีล 33.5 ล้านปอนด์จาก ล็องส์ คูซานอฟ ก็ถูกส่งลงเป็นตัวจริงของ กวาร์ดิโอล่า ในเกมที่เอติฮัดนัดเจอกับ เชลซี
นักเตะวัย 20 ปีต้องอดทนต่อการเปิดตัวด้วยฝันร้ายหลังจากเสียประตูภายในสามนาที จากนั้นเขาได้รับใบเหลืองในนาทีถัดมา ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกในเวลาต่อมาเพียงช่วงต้นครึ่งหลัง
โชคดีสำหรับเขาที่ซิตี้ที่พลิกกลับมาคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 3-1 แม้ว่าคูซานอฟจะถูกดร็อปลงเป็นตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกนัดถัดมา ซึ่งเป็นเกมที่พ่ายแพ้ต่ออาร์เซนอล 5-1 แต่ก็ต้องรอดูกันไปยาวๆ ว่าดีลนี้จะคุ้มค่าหรือไม่
1. โอมาร์ มาร์มูช – ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ไป แมนฯ ซิตี้, 59 ล้านปอนด์
นักเตะทีมชาติอียิปต์ ลงประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกในการเจอกับเชลซี และโชคดีสำหรับ แมนฯซิตี้ ที่พวกเขาชนะ 3-1
หลังจากต้องพึ่งพา เออร์ลิง ฮาลันด์ เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ฮูเลียน อัลวาเรซ ขอย้ายไป แอตเลติโก มาดริด ทางด้านของ กวาร์ดิโอล่า จึงต้องการขุมกำลังใหม่เข้ามาเสริมในตำแหน่งดาวยิงมากขึ้น และมาร์มูชได้ถูกล็อคเป้าอย่างรวดเร็วว่าเป็นคนที่ซิตี้ต้องการ โดยบรรลุข้อตกลงมูลค่า 59 ล้านปอนด์ พร้อมส่วนเสริมเพิ่มเติมอีก 4 ล้านปอนด์ด้วยกัน