แฟนบอลทั่วโลกมองว่า เอริค เทน ฮาก ตำแหน่งสั่นคลอนเต็มที หลังจากที่เขาต้องเผชิญความกดดันในแมตช์ล่าสุดที่มีภาพกลุ่มผู้บริหารสโมสรต่างพร้อมใจเข้ามาดูเกมที่ วิลล่า พาร์ค ก่อนที่ผลจะจบลงด้วยสกอร์ 0-0

แต่จนถึงตอนนี้ เทน ฮาก คิดว่าตำแหน่งของเขาในฐานะผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ถูกคุกคามแต่อย่างใด พร้อมบอกว่า เขาได้พูดคุยกับบอร์ดสโมสรอยู่เสมอถึงความเป็นไปกับทิศทางการทำทีม ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกว่าจะถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ‘ปีศาจแดง’ เช่นเดียวกับการประชุมผู้บริหารรอบล่าสุดก็ไม่ได้มีแนวโน้มว่าจะปลดเขาออกจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตามผลงานของ แมนฯ ยูฯ นับเป็นการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่สำหรับฤดูกาล 2024/25 และด้วยภาพที่เกิดขึ้นในเกมกับ วิลล่า ก็ยิ่งทำให้เทรนเนอร์หลายคนเริ่มมีข่าวกับ แมนฯ ยูฯ ในฐานะกุนซือใหม่ที่อาจจะเข้ามาแทนที่ เทน ฮาก และหนึ่งในนั้นคือ ซิโมเน่ อินซากี้ …

แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้ร้อนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ก็ถือว่าเป็นชื่อที่น่าสนใจ และอาจมีโอกาสที่ ปีศาจแดง จะหวนกลับมาทาบทามอีกครั้ง หาก เทน ฮาก มีอันต้องลาทีมหลังจบฤดูกาล

ผู้จัดการทีม ‘ปีศาจแดง’ คนต่อไป?

ข้อตกลงสัญญากับ อินเตอร์ มิลาน ในปัจจุบันของ อินซากี้ จะหมดลงในเดือนมิถุนายน 2027 ดังนั้นการจะดึงเข้าไปจากทีมในตอนนี้จึงมีราคาฉีกสัญญาที่แพงมหาศาล

ซิโมเน่ ผู้เป็นน้องชายของอดีตกองหน้า เอซี มิลาน อย่าง ฟิลิปโป อินซากี้ สร้างชื่อเสียงอย่างต่อเนื่องกับลาซิโอสโมสรเก่าของเขา ก่อนที่จะย้ายไปคุม อินเตอร์ มิลาน ในปี 2021 หลังจากได้เรียนรู้แทคติกจาก สเวน-โกรัน เอริกส์สัน ผู้ล่วงลับ และ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ สมัยเป็นนักเตะ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเห็นเขาเติบโตในทิศทางที่ดีกับงานโค้ช

แต่นับตั้งแต่ที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือระดับตำนานก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว แมนฯ ยูฯ ก็ต้องเจอกับโค้ชมากมายที่มีปรัชญาแท็คติกแตกต่างกัน และ อินซากี้ ก็คงเป็นไปในทิศทางใหม่อีกครั้งต่างจากคนที่ผ่านๆ มา

อินซากี้ เป็นผู้จัดการแบบไหน?

หากว่ากันตามตรง อินซากี้ ถูกประเมินต่ำเกินไปเมื่ออยู่นอกลีกอิตาลี โดยผลงานกับทีม งูใหญ่ เขาคว้าแชมป์เซเรีย อา, โคปปา อิตาเลีย (2 สมัย) และเข้ารอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก

จากผลเสมอ 0-0 กับแมนฯ ซิตี้ ในเกมยุโรป และข้อเท็จจริงที่ว่า ดิเอโก้ ซิเมโอเน เฮดโค้ช แอตเลติโก มาดริด ถึงกับเอ่ยปากชมว่า “ชอบที่ อินเตอร์ เล่นมากๆ” ก็อาจสร้างการรับรู้ได้ว่าเขาเป็นโค้ชที่เน้นการปฏิบัติจริง และมีดีกว่าที่ทุกคนเห็น

อินเตอร์ มิลาน ในยุคของเขามีสไตล์ที่ลื่นไหล โดยที่นักเตะมักจะหมุนเวียนไปตามตำแหน่งต่างๆ คล้ายกับ โททัล ฟุตบอล อันโด่งดังของอาแจ็กซ์ เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับตัวเอง และสร้างความระส่ำระสายในฝ่ายตรงข้าม ภายใต้การคุมทีมของ อินซากี้ เขาทำให้ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเบอร์ 10 กลายมาเป็นเพลย์เมคเกอร์แนวลึกที่สามารถเป็นคู่แข่งกับโรดรี้ในสายตาของใครหลายคน

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งในการป้องกันและการครองบอลคือหนึ่งในจุดเด่นของ อินซากี้ ภายใต้การกุมบังเหียนของเขา อินเตอร์ มีสถิติสัมผัสบอลมากเป็นอันดับสองโดยไม่เสียการครองบอลที่ 83.49% ด้วยกัน

เมื่อพูดถึงการครองบอลโดยเฉลี่ย มีเพียง นาโปลี (60.11%) และ ฟิออเรนติน่า (57.28%) ที่เหนือกว่า อินเตอร์ (56.74%) สิ่งสำคัญที่สุดคือ มีเพียง ยูเวนตุส เท่านั้นที่เก็บคลีนชีตได้มากกว่าและเสียประตู (56/101) น้อยกว่าพวกเขา (51/103)

ในแง่ของการแย่งบอลในช่วงเปลี่ยนจากรุกเป็นรับ มีเพียง อตาลันต้า (631) และ นาโปลี (594) ที่ครองบอลในแดนสุดท้ายมากกว่า อินเตอร์ ของ อินซากี้ (579) ดังที่ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หัวหอก อินเตอร์ กล่าวไว้ว่า “เราเพรสซิ่งสูงมาก และนั่นช่วยให้เราแย่งบอลกลับมาได้อย่างรวดเร็ว, สร้างโอกาสในการทำประตู และกดดันคู่แข่งให้อยู่ในแดนหลัง”

อีกหนึ่งผลงานของ อินซากี้ ช่วงเดือนมีนาคม เขาทำสถิติเฉลี่ยแต้มต่อเกมที่ดีที่สุดในบรรดาผู้จัดการทีมทุกคนในประวัติศาสตร์ของอินเตอร์ นอกจากนี้เขายังบันทึกชัยชนะในการแข่งขันเซเรียอา 300 นัดแรก (179 นัด) มากกว่าโค้ชคนใดในประวัติศาสตร์ของลีก มากกว่า คาร์โล อันเชล็อตติ และ เฮเลนิโอ เอร์เรร่า ด้วยซ้ำ

แมนฯ ยูฯ จะเป็นอย่างไรหาก อินซากี้ คุมทีม?

นับตั้งแต่เข้ามาคุม ‘งูใหญ่’ ในเดือนพฤษภาคม 2021 อินซากี้คุม อินเตอร์ มาแล้วกว่า 160 นัดในทุกรายการ และสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือระบบการเล่น 3-5-2 นั้นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเขา แม้ว่าตำแหน่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างเกม (โดยทั่วไปแล้วจะเป็น 5–3–2 เมื่อเสียการครองบอลเนื่องจากวิงแบ็กถอยกลับเข้าสู่แนวรับ) อินซากี้มุ่งมั่นที่จะวางระบบเริ่มต้นนี้ นั่นอาจเป็นอุปสรรคสำหรับสโมสรที่มีขุมกำลังแนวรุกที่น่าตื่นเต้นอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ อาหมัด ดิอัลโล่ หาก แมนฯ ยูฯ  จ้างเขา ปีกของพวกเขาอาจมีความสำคัญน้อยลง

อินเตอร์ ลงเล่นด้วยดูโอคู่หู มาร์คัส ตูราม และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โดยมีวิงแบ็คเล่นด้านกว้าง อินเตอร์ จ่ายบอลแบบโอเพ่นเพลย์ต่อนัด (15.51) มากกว่าคู่แข่งทุกทีมในเซเรีย อา และ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ วิงแบ็คซ้ายทีมชาติอิตาลีแอสซิสต์ไปแล้ว 7 ประตูนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2023-24 มากกว่า “กองหลัง” คนอื่นๆ ในลีกสูงสุดของอิตาลี

เมื่อดูขุมกำลังวิงแบ็คที่มี ลุค ชอว์ กำลังทำงานหนักเพื่อเรียกความฟิตในเกมการแข่งขัน ขณะที่ ดิโอโก้ ดาโลต์ แบ็คซ้ายจำเป็นที่เล่นเป็นแบ็กขวาโดยธรรมชาติ อาจจะเหมาะกับสไตล์ที่ลื่นไหลของอินซากี้มากกว่า

“ดาโลต์ เล่นหุบเข้ามาในตำแหน่งหมายเลข 6 และเกือบจะคุมเกมได้จากจุดนั้น” ฟิล โจนส์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งข้อสังเกตให้สกาย สปอร์ตส์ ในช่วงพักครึ่งที่เสมอ 0-0 “ยูไนเต็ดครองบอลได้ดีมาก สร้างโอกาสได้มากมาย เมื่อ ดาโลต์ เข้ามาข้างใน พวกเขากำลังสร้างโอเวอร์โหลด”

“ในบางครั้งคุณมีไมนูเล่นในตำแหน่งเบอร์ 10 และดิโอโก้เล่นในตำแหน่งของไมนู นั่นคือการโอเวอร์โหลดที่พวกเขาสร้างขึ้น”

ในตำแหน่งกองกลาง อินซากี้ อาจทำให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส เล่นในแบบ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ซึ่งตัวเขาเองก็มองเห็นเช่นนั้น “ในเกมกับเอฟเวอร์ตัน ผมเล่นในตำแหน่งหมายเลข 6 และผมยังคงคิดว่ามันเป็นหนึ่งในเกมที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่ผมเคยเล่น ในระดับอาชีพ” บรูโน่ บอกกับ A Bola สำนักข่าวโปรตุเกส

“มันเป็นตำแหน่งที่ผมชอบ ผมเล่นได้ลึกขึ้น และเผชิญหน้ากับเกมมากขึ้น การได้บอลมันทำให้เกมของผมง่ายขึ้นมาก เพราะว่าผมมีมุมมองที่กว้างขึ้น และมันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจ่ายบอลจังหวะสุดท้าย ซึ่งบางครั้งอาจมาจากส่วนลึกในสนาม”

“เกมกับเอฟเวอร์ตันเป็นเกมที่ผมสร้างโอกาสทำประตูได้มากที่สุด แม้ว่าผมจะเล่นต่ำกว่าเดิม และไม่ได้เล่นในตำแหน่งเบอร์ 10 ก็ตาม” บรูโน่ เผย

ส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจ อินเตอร์ มีค่าเฉลี่ยการพยายามจ่ายบอลมากเป็นอันดับสอง โดยหลักๆ มาจาก นิโคโล่ บาเรลล่า มิดฟิลด์ผู้มีอิทธิพลต่อทีม และ เฮนริค มคิตาร์ยาน ส่วนที่ แมนฯ ยูฯ ทั้ง บรูโน่ และ ค็อบบี้ ไมนู มีการจ่ายบอลที่เฉียบคมเหมือนกัน ส่วน มานูเอล อูการ์เต้ อาจจะจ่ายบอลยาวไม่ได้ แต่เขาก็สามารถเป็นส่วนสำคัญในการแย่งบอลแผงมิดฟิลด์ได้เช่นกัน